1. STRONG !!!!*
[ สตรอง ] หมายถึง ความแข็งแกร่ง แข็งแรง หนักแน่น
ที่มาของ คำฮิต คำนี้มาจาก รายการ The Face Thailand เป็นคำที่ เมนเทอร์ลูกเกดผู้ที่มีบุคลิ
คที่โดดเด่นที่สุดภายในรายการ ใช้พูดตอนลูกทีมถ่ายแบบกับงู ซึ่งนางแบบทุกคนต่างกลัวงู เมนเทอร์
ลูกเกดเลยพูดออกมาว่า สตรอง สตรอง สตรอง น้ำเสียงหนักแน่นเข้มดุ เพื่อกระตุ้นลูกทีมของตนเอง
ซึ่งรายการ The Face Thailand ได้รับความนิยม และพูดถึงกันอย่างมากบนโลกออนไลน์ และยัง
มีเพจต่างๆ นำคำไปเล่นต่อมุขกันอย่างถล่มทลาย จนถึงกับมีเพจที่ตั้ง พี่เกดไม่เข้าใจอ่ะ ขึ้นมาให้ทีม
ลูกเกดโดยเฉพาะ และก็ยังมีคำฮิตต่างๆ อีกมากมายที่นำมาใช้พูดกันบนโลกโซเชียล เช่น ทีมลูก
เกด… ทีมบี… ทีมคริส… เมนเทอร์… พี่ไม่ได้มาเล่นๆ….
2. เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง !!!!
ที่มาของ คำฮิต คำนี้มาจาก แร็พเปอร์ตัวพ่อของเมืองไทยอย่าง โจอี้ บอย แห่ง The Voice
Thailand ทำให้เกิดกระแสบนโซเชี่ยลมีเดีย อย่างบ้าคลั่ง เอาคำไปแปลงเป็นข้อความต่างๆ กัน
อย่างสนุกสนาน จนเจ้าตัว โจอี้ บอย เองยังออกมา ทวีต เล่นตามกระแส คำฮิตของตัวเองด้วยซะเลย
*3. ทิ้งไว้กลางทาง !!!!*
ที่มาของ คำฮิต คำนี้มาจาก เพลง “ทิ้งไว้กลางทาง” ของศิลปิน โปเตโต้ ซึ่งได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่
ออกมา และซึ่ง MV ประกอบเพลงก็ทำออกมาได้ฟิว กระใจคนดูไปแบบเต็มๆ ส่งผลทำให้ยอดวิวถล่ม
ทลายอย่างที่วงโปเตโต้ไม่เคยทำได้แบบนี้มาก่อน อีกทั้ง ยังกลายเป็นคำฮิตติดปากที่คนเอาไปแปลง
ใช้กันอย่างสนุกสนานบนโลกโซเชียล จนทางต้นสังกันต้องหยิบเอา เพลงนี้ไป ทำเป็น หนังสั้น
Story “ทิ้งไว้กลางทาง The Series” ซึ่งก็มีผู้คนสนใจติดตามชมกันอย่างล้นหลามเช่นกัน
4. ร้องไห้หนักมาก !!!!
ที่มาของ คำฮิต คำนี้ หากลงค้นหาดูใน Pantip หลายคนบอกว่า ที่มาจริงๆมาจาก ทวิต สายการ
เมืองโดยตอนนั้น ท่าน นายก ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องการรัฐประหาร ท่านกล่าวว่า “คืนนั้นร้องไห้
เสียในหนักมาก และ ทางคุณอภิสิทธ์ ก็เคยให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางและคำพูดคล้ายๆกันว่า คืนนั้นผมร้องไห้หนักมาก เลยเกิดการใช้แฮสแท็ก #ร้องไห้หนักมาก ขึ้นมาบน ทวิต และทำให้เกิดกระแส ใช้ตามๆกันมา โดยจะใช้ใส่ ท้ายประโยค ส่วนมากจะใช้ไปในทางประชดประชัน เช่น ทำงานไมไ่ด้ห
ยุดได้หย่อนแต่ละวัน #ร้องไห้หนักมากก… ใช้กันจนนักร้องหลายท่านนำมาทำเป็นชื่อเพลงของตัวเองและหลังๆ ก็ได้ถูกใช้กันหนักข้อขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น จนเพี้ยนและกลายเป็นคำว่า ร้องเฮี้ยหนักมาก
5. ความรักก็เช่นกัน !!!!
ที่มาของ คำฮิต คำนี้ มาจาก แฮสแท็กใน ทวิต #ความรักก็เช่นกัน ซึ่งเป็นคำที่โด่งดังตาม
#ร้องไห้หนักมาก กันมาแบบติดๆ บางกระแสกล่าวไว้ว่า แฮสแท็กนี้เกิดจากการประชดประชัน วัยรุ่น
ที่ชอบ โพสข้อความเท่ห์ๆ และจบท้ายด้วย #ความรักก็เช่นกัน จนเกิดเป็นการล้อเลียนและนำเอาแฮ
สแท็คสองคำนี้มาใช้คู่กันในการต่อท้าย ข้อความเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง จนใช้กันอย่างแพร่
หลายในโลกโซเชียล ถึงกับมีคนทำ เพจ ชื่อความรักก็เช่นกันออกมาและ ก็มีผู้คนติดตามเป็นจำนวนมาก
6. หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน !!!!
ที่มาของ คำฮิต คำนี้ มาจาก โน็ต อุดม ซึ่งเป็นมุกที่โน็ตใช้ ในเดี่ยว 11 ซึ่งแหล่งข่าวใน
Pantip ได้กล่าวไว้ว่า มันคือ มุขที่ โน็ต เเซวคนที่เล่น Pantipโน๊ตยกตัวอย่างกระทู้พันทิปมาเป็น
มุก ประเภทคุยๆแล้วกลายพันธุ์เป็นทู้การเมือง โน่นนั่นลากยาวไปแบบเหลืองแดง แมลงสาป แล้วก็
มาหยุดตรงคอมเม้นท์นึง เราก็นึกว่า เป็นคอมเม้นท์ประมาณแอดมินพันทิปมาบอกให้ปิดกระทู้ กลาย
เป็นมีคนมาเม้นท์หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากบ้าน…. ซึ่งคำพูดนี้ก็ถูกนำไปใช้ในโลกออนไลน์อย่างแพร่
หลาย ซึ่งคนใช้บางคนยังไม่รู้ที่มาด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร คือ ใช้ตามๆ เค้ามา เห็นเค้าใช้ก็ใช้ตาม
ซึ่งหากใช้กับคนที่ไม่ได้ติดตาม เดี่ยว ก็จะไม่เข้าใจมุกมุกนี้
7. ปัง !!!!
หมายถึง โด่งดัง อลังการงานสร้าง สุดยอด
ที่มาของ คำฮิต คำนี้มาจาก แฮสแท็คใน ทวิตเตอร์ ซึ่ง คนใช้เพื่ออธิบายความพิเศษของอะไร
บางอย่าง หรือ บางคนก็กล่าวว่า ที่จริงแล้วคำว่าปัง นั้นมาจากการกระทำที่ทำให้เกิดเสียงดัง ปึง
ปัง!! นั่นเอง
8. เอาที่สบายใจ !!!!
ที่มาของ คำฮิต คำนี้ สันนิษฐานว่ามาจาก พิธีกรตลก จากรายการเกมส์โชว์ชื่อดัง เท่ง เถิดเทิง
ที่ยิงมุขด้วยคำพูดที่ว่า ” เอาที่...สบายใจ ” ใส่เพื่อนในแก้งสามช่า จน คนดูฮาจนท้องแข็งไป
ตามๆ กัน หลังจากนั้น ก็เกิดกระแส นำคำ ฮิตคำนี้มาใช้กันอย่างสนุกสนาน บนโลกออนไลน์ รวมถึง
ใช้เป็นคำพูดกับเพื่อนเป็นภาษาพูดอีกด้วย
9. Slow life !!!!
[สโลวไลฟ์] หมายถึง การใช้ชีวิต แบบ ช้าๆ สโลๆ เรียบง่าย สบายๆ ประหนึ่งว่า นักจิบกาแฟ
ยามเช้า มองพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศบริสุทธิบนยอดเขา แบบ ชีวิตดี้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่วัยรุ่น หรือ ทุก
คนไฝ่ฝัน อยากจะใช้ชีวิตให้ได้แบบนั้น ทั้งๆ ที่ในโลกความเป็นจริงๆ มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ
10. Hipster !!!!
[ฮิปสเตอร์] จริงๆ แล้วคำนี้มาจาก สไตร์และวัฒนธรรมการแต่งตัว ของชาวต่างชาติ จนขยายมา
ถึงไทยซึ่งวัยรุ่นหลายคนนิยมแต่งตัว และใช้ชีวิตให้คล้ายแบบนั้น ซึ่งหลายคนชอบกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆ
เกี่ยวกับคำว่า Hipster ว่าคือคนแบบนั้น คือแบบนี้ Hipster ต้องกินกาแฟ Hipster ต้องเลี้ยง
สัตว์ และหลายๆคน ก็ชอบใช้คำนี้เรียกแทนกลุ่มคน ที่ใช้ชีวิต หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ ถูกกำหนดขึ้น
มาให้ Hipster แต่เชื่อเถอะ ว่าบองคนก็ไม่ได้ชอบหรอก ที่ถูกเรียกแบบนั้น เพราะคนที่รัก สัตว์
ชอบดื่มกาแฟ อาจจะเป้นใครๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Hipster
ที่มา http://digitionary.com
(ภาพประกอบจาก internet)
ที่มา: http://www.ta-kra.com/news409.html