ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าคุณมีแผนท่องเที่ยวแล้วหรือยัง? ถ้ายังไม่มีละก็ตอนนี้ยังพอมีเวลานะคะ ใครที่กำลังสนใจจะไปประเทศที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์เฉพาะตัวอย่างญี่ปุ่น และแน่นอนว่าหากคิดถึงญี่ปุ่นในช่วงปลายปี-ต้นปีแล้วคุณจะได้สัมผัสกับหิมะ หิมะ แล้วก็หิมะอย่างแน่นอน

ช่วงที่อากาศดีๆ แบบนี้ที่พักหลายๆ ที่ในญี่ปุ่นมีโอกาสเต็มสูงมาก และแน่นอนว่าเพื่อเป็นการวางแผนอย่างรัดกุม เราก็ต้องจองที่พักล่วงหน้ากันค่ะ ใครจะไปแวะเมืองไหน ใกล้แหล่งช้อป หรือแหล่งกิน ไปเลือกดูที่พักในญี่ปุ่นได้ที่นี่เลย https://www.traveloka.com/th-th/hotel/japan/

ข้างล่างนี้เป็นเมืองน่าแวะสำหรับฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นของคุณ เราค่อนข้างมั่นใจเลยทีเดียวว่าไม่ว่าจะเป็นข้อไหนก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวังกับ 5 ทริป 5 เมืองน่าเที่ยวในฤดูหนาวที่ญี่ปุ่น

โตเกียว (Tokyo)

อย่างที่รู้กันว่าโตเกียวนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและโด่งดังมากมาย ทั้งเก่าแก่และทันสมัย และเมื่ออยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่หิมะโปรยปราย ความงดงามของสถานที่เหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจเทียบได้กับช่วงเวลาอื่นๆ ลองนึกภาพโตเกียวทาวเวอร์ท่ามกลางหิมะขาวโพลนสิ ที่ดิสนีย์แลนด์เองก็มีกิจกรรมพิเศษช่วงฤดูหนาวด้วยนะคะ

ร้านรวงขนมเบเกอรี่ต่างๆ ก็มีแฟนซีเค้กและเมนูพิเศษต้อนรับหิมะ แค่โมจิอุ่นๆ ทานกับน้ำชาร้อนๆ ก็ฟินแล้ว หรือไม่ก็ลองเดินออกจากที่พักตอนกลางคืน เตร่เข้าไปในละแวกชิบุยะแล้วแวะไปที่ศาลเจ้าเมจิตอนเที่ยงคืนในช่วงขึ้นปีใหม่ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน สำหรับนักเดินทางที่ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กน้อยอย่างคุณแล้ว เรารับรองเลยว่าค่ำคืนโตเกียวในฤดูหนาวจะทำให้คุณตาลุกวาวถึงเช้าเลยทีเดียว

 

ฮะคุบะ (Hakuba)

ถ้าเราพูดถึงฤดูหนาวแล้วไม่เอ่ยถึงสกีหิมะก็จะดูเหมือนพลาดอะไรไปหน่อย และเมื่อพูดถึงสกีรีสอร์ทแล้วสถานที่ที่ขึ้นชื่อทางการท่องเที่ยวแขนงนี้แห่งหนึ่งของญี่ปุ่นก็คือเมืองฮะคุบะ จังหวัดนะงะโนะ ด้วยการบริการที่ครบครันและการต้อนรับที่อบอุ่น ทั้งที่พัก อาหาร และแน่นอนที่สุด บ่อน้ำร้อนสุดผ่อนคลาย เรียกว่าไม่ให้ตกไปแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย ทำให้เราต้องแนะนำให้คุณที่สนใจการพักผ่อนและกิจกรรมกลางลานหิมะไปในคราวเดียวกันต้องแวะมาที่ฮะคุบะให้ได้

ถ้ายังไม่หนำใจกับสกีและความท้าทาย คุณสามารถเดินทางไปที่หุบเขาจิโงคุดานิ ในเมืองยะมะโนะอุจิ แล้วแวะที่อุทยานลิงเพื่อทักทายเหล่าลิงจ๋อที่มาแช่น้ำร้อนอย่างสบายอกสบายใจ เล่นสกีต่อด้วยแวะเยี่ยมลิงน่ารักๆ ก็ไม่เลวใช่ไหมล่ะ

 

ยูซะวะ (Yuzawa)

ยูซะวะเป็นเมืองเล็กๆ ในมินะมิอุโอะนุมะ จังหวัดนีงะตะ  ขึ้นชื่อเรื่องความตระการตาของลานสกีหิมะและบ่อน้ำร้อนหรือออนเซ็น แต่ความพิเศษของยูซะวะมีมากกว่านั้น คือเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่อันเป็นต้นแบบให้กับฉากหลังของนวนิยายเรื่อง Snow Country ของนักเขียนชาวญี่ปุ่นผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Kawabata Yasunari ที่นอกจากจะเปี่ยมด้วยอารมณ์อันละเอียดอ่อนแล้ว คะวะบะตะยังเป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมอีกด้วย

โรงพักแรมที่คุณต้องลองแวะไปพักให้ได้คือทะกะฮัง อันเป็นโลเกชั่นหลักของนวนิยายนั่นเอง ที่นี่มีทั้งบ่อน้ำร้อนที่ดีต่อผิวพรรณ มีการจัดแสดงห้องพักที่คะวะบะตะเคยมาพักตอนเขียนนวนิยายเรื่องนี้ไว้อย่างดี และขาดไม่ได้ คือมีบริการสาเกเลิศรสสำหรับนักเดินทางคอแข็งด้วย ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษจากโตเกียวเท่านั้น

 

ชิระคะวะโกะ (Shirakawago)

หมู่บ้านชิระคะวะตั้งอยู่ในหุบเขาบนเส้นทางระหว่างคะนะซะวะกับทะคะยะมะ หมู่บ้านชาวนาที่ให้บรรยากาศอบอุ่นแห่งนี้มีสิ่งพิเศษสุดอย่างหนึ่งคือบ้านกัชโชสึคุริ (Gassho Zukuri) ที่เป็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ มีหลังคาลาดเอียงประกบกันเหมือนพนมมือ แสดงออกถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้คนที่นี่เมื่อต้องรับมือกับหิมะและความหนาวเย็น ตัวบ้านเองนั้นมีขนาดใหญ่ขนาดให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปอยู่ได้ อีกทั้งยังมีชั้นเก็บของมากมาย เรียกว่าสามารถให้ความอบอุ่นจนกว่าหน้าหนาวจะสิ้นสุดรอรับฤดูใบไม้ผลิได้เลยทีเดียว

กัชโชซึคุริได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1995 สมกับความละเอียดอ่อนของความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับคนที่แสดงออกมาในโครงสร้างของบ้านเรือนเหล่านี้ แต่ความพิเศษสุดของชิระคะวะโกะยังมีอีกประการ คือในช่วงฤดูหนาวจะมีกำหนดการแสดงแสงไฟบนหลังคากัชโชซึคุริที่สวยงามล้ำค่า เรียกว่าต้องมาเห็นให้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ ตรงนี้เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่าควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนนะคะ

 

 เกียวโต (Kyoto)

กรุงเก่าอย่างเกียวโตนั้นขึ้นชื่อเรื่องความรุ่มรวยและความงดงามของมรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่า ยิ่งคุณได้มาเยือนและพักที่นี่ท่ามกลางหิมะสีขาว คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ความงดงามสุดล้ำค่านั้นจนไม่อาจลืมเลือนได้เลย ยิ่งตอนช่วงกำลังจะขึ้นปีใหม่ ในเกียวโตก็จะมีกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนญี่ปุ่นสารพันให้นักท่องเที่ยวต่างวัฒนธรรมได้เรียนรู้

ไม่ว่าจะเป็นการเช่าชุดกิโมโน แวะไปขอพรหรือเสี่ยงทายที่วัดคิโยะมิสึ เดินเตร่ดูสินค้าแฟนซีที่นิเน็นซะกะและซังเน็นซะกะ อาจหาเวลาแวะไปที่วัดโคไดจิเพื่อชมสวนวิจิตร และแน่นอนว่าต้องหาสปอตเหมาะๆ ริมแม่น้ำเพื่อรอฟังเสียงระฆังขึ้นปีใหม่ เป็นอันจบส่งท้ายปีอย่างสวยงามเพื่อต้อนรับความสุขกายสบายใจที่ปีใหม่กำลังจะนำมา ใครว่าวัฒนธรรมเก่าแก่จะไม่สามารถคงอยู่กับโลกสมัยใหม่ได้ล่ะ

 

ความละเอียดอ่อนของคนญี่ปุ่นจะแสดงออกผ่านทางธรรมเนียมประเพณีในแต่ละช่วงฤดู ทั้งด้านการแต่งกาย งานพิธี อาหาร เครื่องดื่ม จนถึงการตกแต่งอาคารบ้านเรือนทั้งภายนอกและภายใน แล้วช่วงฤดูหนาวที่มีงานสำคัญอย่างการขึ้นปีใหม่จะพลาดได้ยังไง