การเก็บกระเป๋าก่อนการเดินทางมีความจำเป็นต้องเตรียมตัวแต่เนินๆ  เพราะว่าการเตรียมพร้อมก่อนนั้นจะทำให้สิ่งของเราที่ต้องการไม่ตกหล่นไป  และเอกสารที่มีความสำคัญในการเดินทางด้วย  ยารักษาโรคเป็นต้น  ควรที่จะทำการจัดเก็บดังนี้

– การพับเสื้อผ้าให้เรียบร้อยตามความเหมาะสม  และแน่นอนว่าเสื้อผ้าที่พับนั้นจะเป็นรอยพับด้วย วิธีป้องกันด้วยการรองก่อนพับอย่างเช่นน้ำเสื้อผ้าที่ไม่ผับสอดใส่ทำให้ลดของรอบพับลดลงได้
–  จดรายการที่มีความจำเป็นต้องเก็บ  ให้ทำการตรวจสอบตามรายการที่ได้จดไว้  เตรียมพร้อมให้ครบ
– การพับเสื้อผ้าควรมีการสลับเสื้อกับกางเกงด้าย
– หากยังมีพื้นที่เหลือให้ทำการใส่อุปกรณ์หรือสิ่งของไว้ด้านข้างเพื่อให้เสื้อผ้านั้นเคลื่อนตัวได้
– การเตรีมตัวก่อนการเดินทางควรทำในช่วงวันหยุดและก่อนเดินทาง 2 – 3 วัน

สิ่งของห้องห้ามก่อนขึ้นเครื่องบิน

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องบินนั้นมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากในการตรวจสิ่งของก่อนขึ้นเครื่อง  หลายคนอาจจะเกิดความรำคาญแต่นั้นเป็นวิธีรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก  เพื่อป้องกันสิ่งของที่เป็นอันตรายอย่างเช่นวัตถุที่อาจจะเป็นระเบิดได้  ของมีคมต่างๆ  อาวุธ  เป็นต้น  และแน่นอนสิ่งที่ควรต้องห้ามดังนี้  ที่ต้องมีการได้รับอนุญาตเสียก่อน

           1. อย่านำของเหลวมากกว่า 3.4 ออนซ์  กฎข้อนี้มีการเริ่มใช้มาตั้งแต่ ปี 2006  หากในกระเป๋าที่มีของเหลวอย่างเช่นน้ำหอม  เครื่องสำอาง  แชมพู  สระผมเมื่อถึงการตรวจสอบความปลอดภัยจะมีการแจ้งเตือนและทำหารกักกระเป๋านั้นไว้  และสิ่งของอาจจะได้รับการยกเว้นอย่างเช่น  ยา  น้ำนมเด็กทารก  สามารถที่จะสอบถามข้อมูลก่อนได้ที่หน่วยรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน
           2. หากมีขอเหลวอย่างเอาไว้ในกระเป๋าที่ลึกๆ  เพราะว่าหากมีการตรวจสอบจะได้นำเอาออกมาง่ายหรือถ้าไม่ให้ผ่านก็เก็บออกได้ง่าย  ควรเอาเก็บไว้กระเป๋าที่มีเป็นกระเป๋าด้านนอกจะดีกว่า
              3. อย่าลืมบัตรผ่านในการขึ้นเครื่อง  เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่จะขาดไม่ได้เลยเพราะว่าบัตรหายจะผ่านไม่ได้และต้องวุ่นวายอยู่กับการแก้ไขปัญหาควรที่จะเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ของคุณเองและเก็บไว้ที่ตัวตลอด
          4. เครื่องประดับที่เป็นโลหะ  หากที่ตรวจจะต้องทำการตรวจสอบพวกโลหะคุณจำเป็นที่จะต้องถอดก่อนที่จะผ่านเข้าไปยังเครื่องตรวจ  ซึ่งจะต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่  ซึ่งคุณต้องถอดพวกนาฬิกา  เข็มขัด  หรืออะไรก็แล้วแต่รวมไปถึงต้องถอดรองเท้าด้วยก็มี  ดังนั้นไม่ควรถามรองเท้าที่ถอดออกอยากๆ  ซึ่งสิ่งของที่แยกต้องตรวจต่างหากรวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  มือถือ  แท็บแล็ต
           5. ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ  อย่ามองข้ามการตรวจอบเล็กๆน้อยๆ  ดังนั้น  คุณต้องแน่ใจเสียก่อนแล้วว่าผ่านมาทุกด่านก่อนขึ้นเครื่องบิน  เพราะฉะนั้นแล้วอย่ามองข้ามเพราะเป็นเครื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน  หรืออย่าล้อเล่นกับระบบรักษาความภัยของสนามบินเป็นอันขาด

หากประเป๋าหายต้องทำอย่างไร

เป็นที่เกิดขึ้นได้น้อยมากแต่เนื่องด้วยความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้นก็ย่อมที่จะเจอเรื่องของกระเป๋าที่หายได้  การนำสิ่งของสัมภาระวางไว้ในสายพานลำเลียง  ไปเรื่อยอาจจะไม่สามารถบอกไว้เลยว่าจะหายไปบ้างหรือไม่ซึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาของเราได้ตลอดเวลานั้นเอง
สิ่งที่มักเกิดขึ้นความตกใจของผู้โดยสารว่ากระเป๋าหายไปไหน   ทางท่าอากาศยานมีวิธีการติดตามกระเป๋าของคุณเป็นอย่างดี  ดังนั้นไม่ต้องตกใจแต่อาจจะตามมาได้ได้นานไม่นานขึ้นอยู่กับว่ากระเป๋านั้นได้หายไปไหน  หรือาจจะไปอยู่ในเที่ยวบินอีกเที่ยวบินหนึ่งซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง  หากบินไปแล้วอาจจะต้องใช้เวลาในการตาม 2 – 3 วันเลยทีเดียว  บางสายการบินอาจจะชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงที่ได้ระบุไว้ด้วยก็ได้  หากสิ่งของถูกขโมยหรือหายไปอาจจะชดเชยไปตามี่กำหนด

การป้องกันกระเป๋าหาย
– ให้เขียนชื่อกำกับไว้ที่ด้านข้างกระเป๋าของคุณ  ไว้ทั้งด้านนอกและด้านใน
– กระเป๋าที่หายมักเกิดจากช่วงที่มีขนขึ้นเยอะแลเวลามีจำกัดทำให้กระเป๋ามีการเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนช่องผิดพลาดได้ง่าย  ดังนั้นควรที่จะเลือกเวลาที่คนน้อยๆ จะดีกว่า
– เก็บของสิ่งมีค่าอย่างเช่น  ยารักษาโรค  เครื่องประดับไว้ในกระเป๋าถือของคุณ
– ตรวจสอบให้แน่ใจถึงการติดหมายเลข ID ระหว่างตั๋วและกระเป๋าของคุณให้ตรงกันได้
– การติด TAG สัมภาระควรที่จะทำเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าจะได้ทราบว่ากระเป๋าไปอยู่ที่ไหนหากเราหาไม่เจอ