กรดไหลย้อน เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลกลับขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนปลาย ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนที่ไม่ทนต่อกรด ส่งผลให้หลอดอาหารเกิดการระคายเคืองและอักเสบขึ้นทำให้เกิดอาการสำคัญ ได้แก่ อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก (Heartburn) และ มีน้ำย่อยรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาทางปาก

ผลการวิจัยในประเทศอังกฤษพบว่า 39%ของสตรีมีครรภ์ในไตรมาสที่ 2และ 72% ของสตรีมีครรภ์ในไตรมาสที่3 มักมีอาการแสบร้อนกลางอกเรอเปรี้ยวและอาหารไม่ย่อย ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณเตือนของ โรคกรดไหลย้อน ทั้งสิ้น

สาเหตุที่คุณแม่ตั้งครรภ์เสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อนมากกว่าปกติเป็นเพราะการตั้งครรภ์ส่งผลให้ฮอร์โมนหลายชนิดเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) กลไกการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในระบบย่อยอาหารจึงช้าและด้อยประสิทธิภาพลง เป็นเหตุให้กรดจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารง่ายขึ้น ประกอบกับมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุครรภ์จะไปกดและเบียดพื้นที่กระเพาะอาหาร ทำให้ความจุของกระเพาะน้อยลง โอกาสการเกิดภาวะกรดไหลย้อนก็เลยเพิ่มมากขึ้นด้วย
คุณแม่หลายรายอาการดีขึ้นหรือหายจากอาการดังกล่าวในช่วงหลังคลอดบุตร เมื่อทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์วันนี้เราจึงนำวิธีดูแลตนเองเพื่อป้องกันและรักษาโรคกรดไหลย้อนมาฝากคุณแม่ตั้งครรภ์กัน

• งดอาหารย่อยยาก อาหารมัน อาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ช๊อคโกแลต น้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

• รับประทานมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อแทนมื้อใหญ่ 2-3 มื้อ และไม่ควรรับประทานอาหารแต่ละมื้อในปริมาณมากเกินไป

• ไม่นอนหลังอาหารทันที ควรรออย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง

• สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่นบริเวณเอว

• หนุนหัวเตียงให้สูงจากพื้น 6-10 นิ้ว โดยใช้วัสดุรองขาเตียง

อาการกรดไหลย้อนประมาณ 90%สามารถควบคุมได้ด้วยยา หากอาการไม่รุนแรง อาจปรึกษาแพทย์ในการเลือกใช้ยาเพื่อความมั่นใจ ซึ่งยาที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตรแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ

gaviscon

Gaviscon

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.livewell.in.th/gaviscon/info/

ขอขอบคุณ bantuek