เห็ดเข็มทอง ของดีจากธรรมชาติ รสชาติถูกปาก ลดน้ำหนักก็ได้ ควบคุมเบาหวานก็ดี เจอแบบนี้ไม่ลองได้ยังไงกัน !

          ได้ยินกันมานักต่อนักแล้วถึงเรื่องประโยชน์ของเห็ด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเจ้าอาหารที่ว่าเป็นผักก็ไม่ใช่ จะเป็นพืชก็ไม่เชิงนี้ ดีกับสุขภาพอย่างไม่ต้องสงสัย จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดชิเมจิ เห็นออรินจิ และเห็ดชนิดอื่น ๆ ที่สามารถรับประทานได้ก็ล้วนแต่ได้รับความนิยม และเห็ดอีกชนิดหนึ่งที่ถูกปากถูกใจคนจำนวนไม่น้อยนั่นก็คือ เห็ดเข็มทอง ที่ได้ยินกันมาแว่ว ๆ ว่าช่วยลดน้ำหนักได้ แต่เอ๊ะ ! แล้วเห็ดเข็มทองจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร และมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง เรามาเจาะลึกให้รู้กันไปเลย
 

เห็ดเข็มทอง

     
 เห็ดเข็มทอง คืออะไร ?

          เห็ดเข็มทอง หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า เห็ดเหมันต์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Flammulina velutipes (Curt,ex Fr.) และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Golden Needle Mushroom, Needle Mushroom, Enokitake และ Enoki Mushroom เป็นเห็ดที่เกิดได้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมักอาศัยอยู่บนตอไม้หรือท่อนไม้ที่ตายแล้ว เดิมทีแล้วเห็ดเข็มทองมีลักษณะเป็นดอกเล็ก ๆ แต่ลำต้นสั้น แต่ที่เราเห็นลำต้นผอมยาวเป็นกระจุก ก็เพราะทางประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเห็ดเข็มทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ เพื่อให้สะดวกต่อการบรรจุและจำหน่าย ทั้งนี้เห็ดเข็มทองเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและรสชาติอร่อย เหนียวนุ่ม และที่ได้รับความนิยมเพราะสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย โดยเห็ดเข็มทอง 100 กรัมมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif น้ำ 88.34 กรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif พลังงาน 37 กิโลแคลอรี
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif โปรตีน 2.66 กรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ไขมัน 0.29 กรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif คาร์โบไฮเดรต 7.81 กรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ไฟเบอร์ 2.7 กรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif น้ำตาล 0.22 กรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ธาตุเหล็ก 1.15 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif แม็กนีเซียม 16 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ฟอสฟอรัส 105 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif โพแทสเซียม 359 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif โซเดียม 3 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif สังกะสี 0.65 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ไธอะมิน 0.225 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ไรโบฟลาวิน 0.200 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif ไนอะซิน 7.032 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif วิตามินบี 6 0.100 มิลลิกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif โฟเลต 48 ไมโครกรัม
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif วิตามินดี 5 ยูนิต
 

เห็ดเข็มทอง


 เห็ดเข็มทอง สรรพคุณไม่ใช่เล่น กินเน้น ๆ เพื่อสุขภาพ

          เห็ดเข็มทองเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้เห็ดชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะปริมาณวิตามินบีที่มีมากมายอันเป็นคุณค่าทางโภชนาการพื้นฐานของพืชตระกูลเห็ดเลยก็ว่าได้ ซึ่งเห็ดเข็มทองในปริมาณเพียง 1 ถ้วย ก็มีสารไนอะซิน หรือวิตามินบี 3 สูงถึง 23% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน แถมปริมาณไธอะมินที่มีก็เทียบเท่ากับ 10% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวันเหมือนกัน นี่ยังไม่นับรวมกับแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ อีกมากมายที่ถึงแม้จะมีอยู่ในปริมาณที่ไม่สูงมากนักแต่ก็ครบเครื่องเรื่องคุณค่าแบบสุด ๆ เราจึงสามารถรับประทานเห็ดเข็มทองแทนเนื้อสัตว์ได้ และเพราะสารอาหารที่มีอย่างเพียบพร้อมในปริมาณที่พอดี๊พอดี จึงทำให้เห็ดเข็มทองมีสรรพคุณมากมายดังนี้ค่ะ

1. ช่วยลดน้ำหนัก

          ขึ้นชื่อว่าเห็ดแล้ว สรรพคุณเรื่องการลดน้ำหนักก็จะต้องนำมาอย่างโดดเด่น ด้วยเพราะปริมาณไฟเบอร์ที่มีสูง แถมยังแคลอรีต่ำเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้เกิดการผกผันจนทำให้เกิดอาการหิว นอกจากนี้การที่เห็ดเข็มทองสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ยังทำให้ไขมันสะสมที่เกิดจากการแปรสภาพของน้ำตาลลดลงด้วยล่ะค่ะ

          ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจากญี่ปุ่น ดร.เอะงุชิ ฟุมิโอะ ยังได้มีการคิดค้นสูตรการลดน้ำหนักด้วยเห็ดเข็มทองขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งสูตรนี้มีชื่อเรียกว่า น้ำแข็งเห็ด ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้ค่ะ

 น้ำแข็งเห็ด 

วิธีทำ

          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif 1. เตรียมเห็ดเข็มทอง 300 กรัม หั่นรากออก แล้วล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นแบ่งเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif 2. นำเห็ดเข็มทองใส่เครื่องปั่น เติมน้ำประมาณ 400 มิลลิลิตร ปั่นประมาณ 20-30 วินาที
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif 3. เทลงหม้อตั้งไฟอ่อน เคี่ยวต่อ 1 ชั่วโมง จากนั้นปิดไฟ แล้วพักให้เย็น
          http://wm.thaibuffer.com/o/image/icon/48be2683.gif 4. เทใส่แม่พิมพ์น้ำแข็ง แช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็ง

          นอกจากนี้ ดร.เอะงุชิ ก็ยังแนะนำว่าควรรับประทานน้ำแข็งเห็ดให้ได้วันละ 3 ก้อน โดยการนำไปดัดแปลงใส่กับอาหาร หรือเครื่องดื่ม จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีขึ้นอีกด้วย

2. ต้านมะเร็ง

          อีกคุณประโยชน์ที่เรียกได้ว่าสุดมหัศจรรย์นั่นก็คือสรรพคุณในการต้านมะเร็ง โดยมีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์พบว่าการรับประทานเห็ดเข็มทองเป็นประจำสามารถทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกายได้กว่า 95% และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นั่นก็เป็นเพราะว่าในเห็ดเข็มทองมีสารเฟลมมูลิน (flammulin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งในร่างกายได้นั่นเอง

3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

          สารอาหารที่อัดแน่นอยู่ในเห็ดดอกเล็ก ๆ เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันร่างกายจากสารอนุมูลอิสระที่จ้องทำลายสุขภาพของเรา อีกทั้งยังเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย
 

เห็ดเข็มทอง


4. สลายไขมันในระบบทางเดินอาหาร 

          รู้หรือไม่ว่าไขมันที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่ลง แต่เห็ดเข็มทองช่วยได้ค่ะ เพราะกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ที่อยู่ในเห็ดชนิดนี้จะเข้าไปสลายไขมันที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมอาหารไปใช้ได้ดีขึ้น และทำให้ไขมันสะสมในร่างกายได้รับการเผาผลาญมากขึ้นจากการทำงานของระบบทางเดินอาหารที่เป็นปกติค่ะ

5. ควบคุมระดับน้ำตาล

          สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าพลาดเห็ดเข็มทองแล้วจะต้องเสียดาย เพราะอย่างที่บอกไปเมื่อข้างต้นแล้วว่าเห็ดเข็มทองสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ไม่เพียงแค่กับคนที่มีสุขภาพปกติ แต่กับคนที่เป็นโรคเบาหวานด้วย เพราะเห็ดเข็มทองจะช่วยให้ภาวะผกผันของระดับน้ำตาลลดลง อีกทั้งไฟเบอร์ที่อยู่ในเห็ดเข็มทองก็ยังไปช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลมาใช้ได้อีกด้วย ส่งผลให้อาการของโรคเบาหวานบรรเทาลงโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2

6. แก้ท้องผูก

          อาการท้องผูกส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ ซึ่งวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้การทำงานของลำไส้กลับมาเป็นปกติได้ก็คือการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง และเห็ดเข็มทองก็เป็นอาหารที่มีไฟเบอร์อยู่ไม่น้อย หากรับประทานเห็ดชนิดนี้เป็นประจำแล้วละก็ รับรองว่าระบบขับถ่ายจะเป็นปกติ หมดปัญหาเรื่องขับถ่ายไม่ออก หรือลำไส้แปรปรวนได้เลยค่ะ

7. ช่วยบำรุงสมอง

           เห็ดเข็มทองเป็นพืชที่มีกรดอะมิโนสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองในส่วนของความจำ อีกทั้งช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับสมองทั้งในผู้ใหญ่และเด็กในวัยเจริญเติบโต ถ้ากินเห็ดเข็มทองเป็นประจำก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ 

8. ลดไขมันในเลือด

          อีกหนึ่งประโยชน์ที่ต้องยกความดีความชอบให้ก็คือเรื่องนี้ล่ะค่ะ เพราะกากใยในเห็ดเข็มทองช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ป้องกันภาวะไขมันในเลือดสูง ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหัวใจในที่สุด 

9. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ

          สาเหตุที่เห็ดเข็มทองช่วยลดน้ำหนักได้ไม่ใช่แค่เพียงว่ามีแคลอรีต่ำเท่านั้น แต่เพราะสารอาหารที่มีประโยชน์ในเห็ดเข็มทองรวมทั้งกากใยที่มีอยู่ไม่น้อยจะไปช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และไม่คั่งค้างเหลือกลายเป็นไขมันสะสมที่ร่างกายไม่ต้องการ คนที่มีปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญต่ำ รับประทานเห็ดเข็มทองบ่อย ๆ ก็ช่วยได้เยอะเลยล่ะ
 

เห็ดเข็มทอง


 เมนูเห็ดเข็มทอง กินกับอะไรก็อร่อย 

          ด้วยเพราะลักษณะของเห็ดเข็มทองที่ดูน่ารับประทานและมีรสสัมผัสที่เหนียวนุ่มจึงทำให้เห็ดเข็มทองสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลาย แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทานเห็ดเข็มทองกับอะไรดีก็ลองไปดูเมนูเหล่านี้ที่เราหยิบมาฝากกันเลยค่ะ

         เรื่องของประโยชน์เพื่อสุขภาพ ต้องยอมรับว่าเห็ดเข็มทองนี่ไม่ได้มาเล่น ๆ ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเดี๋ยวนี้คนถึงหันมารับประทานเห็ดเข็มทองกันมากขึ้น ถ้าใครยังไม่เคยลองแต่อยากมีสุขภาพดีละก็ ถ้ามีโอกาสก็หาเจ้าเห็ดชนิดนี้มารับประทานกันดูนะคะ รับรองจะติดใจ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก