เป้าหมายที่แท้จริงในการลดความอ้วน ไม่ได้อยู่ที่การลดน้ำหนักตัวแต่เป็นการลดไขมันในร่างกาย ซึ่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย จะเริ่มขึ้นหลังจากเริ่มออกกำลังกายสักระยะการเดินเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ หนัก ทำให้ทำได้นานจึงช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ดี

1.เริ่มต้นง่ายและประหยัด

       แค่มีรองเท้ากีฬาที่ใส่สบายและเหมาะสมกับเท้าของตัวเอง ก็สามารถเริ่มได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง หรือสมัครฟิตเนส ทั้งยังไม่ต้องหาเวลาหรือสถานที่เฉพาะ เพียงแค่ปรับให้การเดินอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาออกไปข้างนอก ก็เลือกวิธีเดินแทนการขับรถ หรือโดยสารพาหนะ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าเดินทางด้วย

2. ข้อเสียน้อย ข้อดีเยอะ

      แรงกระแทกเมื่อเท้าสัมผัสพื้นจะอยู่ที่หนึ่งหรือสองเท่าของน้ำหนักร่างกาย ซึ่งน้อยกว่าการวิ่ง ทั้งที่เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเหมือนกัน นอกจากนี้ในระยะเท่ากัน อัตราการดึงไขมันในร่างกายมาใช้ก็ใกล้เคียงกัน ผลการวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าการเดินออกกำลังกายครั้งละ 45 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้งอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลา 1 ปี จะช่วยลดน้ำหนักตัวได้ 8.2 กิโลกรัม

3.สลายไขมันในร่างกายได้เร็ว

      ไขมันในร่างกายไม่ได้เริ่มเผาผลาญตั้งแต่เริ่มออกกำลังกาย แต่ต้องออกกำลังกายไปสักระยะจึงจะเริ่มเผาผลาญ โดยปกติแล้ว การเดินเร็ว 10 - 20 นาทีจะช่วยสลายไขมัน ซึ่งการเดินในความเร็วที่พอเหมาะจะทำให้ไม่เหนื่อยและทำได้นาน จึงส่งผลดีต่อการสลายไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะหากออกกำลังกายแบบแอโรบิกขณะท้องว่าง ร่างกายจะดึงน้ำตาลที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงาน จึงช่วยลดความอ้วนได้ดี

4.ลดความเครียด

      การเดินช่วยกระตุ้นสมองได้อย่างพอเหมาะ ทำให้เกิดการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมากขึ้น ส่งผลให้อารมณ์ดีจิตใจแจ่มใส เพราะการควบคุมอาหารในช่วงที่ลดความอ้วนจะทำให้เกิดความเครียดได้ ในช่วงเวลานี้ หากได้เดินออกกำลังกาย ก็จะช่วยบรรเทาความอยากอาหารลง อารมณ์จึงดีขึ้น การเดินจึงถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขจัดความเครียดจนสามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้เลย

5.ไม่มีภาวะโยโย่

      เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ที่ไม่ทำให้เหนื่อยมาก จึงไม่เกิดความรู้สึกหิวโซเหมือนเวลาออกกำลังกายหนัก ทั้งยังช่วยคลายเครียด จึงป้องกันการกินอาหารเยอะเกินไปอย่างฉับพลันด้วย ทั้งนี้เพราะหลังผ่านการออกกำลังกายหนัก หลายคนมักพ่ายต่อความอยากอาหาร จนต้องเผชิญภาวะโยโย่

6.เป็นโภชนบำบัดที่ดี

      หลังจากออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็วแล้วมักรู้สึกอยากดื่มน้ำ หรือกินผลไม้ ทั้งนี้เพราะคาร์โบ-ไฮเดรต (น้ำตาล) ในร่างกายถูกดึงไปใช้ตั้งแต่ช่วงแรกของการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งน้ำเพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป การดื่มน้ำและกินผลไม้มาก ๆ จะทำให้กินอาหารอื่นได้น้อยลง จึงช่วยควบคุมอาหารได้

 7.ทำได้นาน

    การออกกำลังกายและการลดความอ้วน เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไปและทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าการออกกำลังกายทุกวัน แต่ทำได้เพียง 3 เดือน เพราะการทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้รูปแบบชีวิตดำเนินไปตามกลไกการปกป้องร่างกายซึ่งมีอยู่แต่เดิม

    การเดินไม่ได้ทำให้เหนื่อยมากความเครียดจากการลดความอ้วนจึงน้อย ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมากขึ้น ทำให้อารมณ์ดีขึ้นทั้งยังทำได้ในชีวิตประจำวัน จึงเป็นการออกกำลังกายที่ดีในแง่ที่ทำได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน

    

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ ยิ่งเดินยิ่งผอมยิ่งสุขภาพดี / สำนักพิมพ์อมรินทร์เฮลท์ / คิมซารา

ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock