ถ้าของกินสุดโปรดของคุณคือ ไข่แดง ปลาหมึก กุ้งแม่น้ำหัวมันเยิ้ม ปูไข่ กากหมู วิปครีม ชีส เนย

ช่วยถามตัวเองเบาๆว่า ตรวจสุขภาพครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ถ้าคำตอบคือ ไม่เคยหรือมากกว่า 2 ปีขึ้นไป เราขอแนะนำว่า ลองไปตรวจระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายดู เพราะการบริโภคในลักษณะนี้เหมือนว่า คุณกำลังก้าวเข้าไปใกล้ อันตรายจากโรคหัวใจ กล้ามเนื้อสมอง หรือความดันโลหิต ไปครึ่งก้าวแล้ว


ของกินสุดโปรดของคุณ

 

แต่ถ้าหากคุณรู้สึกนอยด์กับปัญหาคอเลสเตอรอล จนเลิกกินอาหารทุกชนิดที่มีไขมัน คุณอาจจะยังเข้าใจอะไรผิดอยู่ เพราะจริงๆแล้วนอกจากระดับคอเลสเตอรอล แล้วสิ่งที่ควรต้องใส่ใจคือระดับของไขมันดีและไขมันเลวในเลือดด้วย

ความสำคัญและชนิดของไขมัน

ความสำคัญและชนิดของไขมัน

ไขมันก็มีความสำคัญนะ เพราะร่างกายต้องการกรดไขมันเพื่อใช้ในการรักษาความสมดุลให้ผิวสวย อีกทั้งยังช่วยลำเลียงและดูดซึมวิตามิน A, D, E และ K รวมทั้งแคโรทีนนอยด์ที่สำคัญกับความสวยงาม นอกเหนือจากการสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายอย่างที่เราเรียนกันมาตอนเด็กๆ ช่วยรองรับและป้องกันอวัยวะภายในได้อีกด้วย ไขมันแบ่งเป็น 2 ชนิดได้แก่

1. ไขมันดีๆที่ควรมีให้กับตัวเอง

ไขมันดี HDL ย่อมาจากคำว่า High density lipoprotein คือ ไขมันที่มีความหนาแน่นสูง เป็นไขมันที่ดีสำหรับหลอดเลือดแดงเพราะจะป้องกันไม่ให้ไขมันที่ไม่ดี คือ คอเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL ไปพอกสะสมในหลอดเลือดแดง ถ้ามีระดับ HDL ในเลือดต่ำ ก็จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือ หลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น ระดับปกติในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็งควรจะไม่ต่ำกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

ส่วนไขมันที่ดีได้แก่ไขมันที่มี polyunsaturated fats มีมากในน้ำมันทานตะวัน ข้าวโพด ถั่วเหลือง และไขมันที่มี monounsaturated fats มีมากในน้ำมัน canola, ถั่ว, และน้ำมันมะกอก พบว่าการรับประทานไขมันชนิดนี้จะลดระดับ LDL รวมทั้งในปลาทะเลน้ำลึก ที่นอกจากจะมีไขมันดี HDL แล้วยังมีโอเมก้า3 ที่ช่วยบำรุงหัวใจอีกด้วย


ไขมันดีๆที่ควรมีให้กับตัวเอง

ไขมันก่อการร้าย ทำลายชีวิต

2. ไขมันก่อการร้าย ทำลายชีวิต

ไขมันเลว LDL ย่อมาจากคำว่า Low density lipoprotein คือ ไขมันที่ความหนาแน่นต่ำ เป็นไขมันที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ระดับ LDL ปกติในคนทั่วไปสูงไม่เกิน 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ระดับมากกว่า 190 ถือว่า สูงมาก

ส่วนไขมันเลวนั้นแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1. ไขมันอิ่มตัว Saturated fats เป็นไขมันที่ได้จากสัตว์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ หนังสัตว์ อาหารทะเลบางประเภท (กุ้ง ปลาหมึก หอย) นม เนย ชีส ไขมันที่ได้จากพืชได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม กะทิ อาหารเหล่านี้จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอล ในเลือดสูงขึ้น
2. ไขมันทรานส์ Tran fatty acid เป็นไขมันที่ได้จากน้ำมันพืชและไปทำกรรมวิธีเติมไฮโดรเจนเข้าไป ได้แก่ มาการีน น้ำมันที่ใช้ทอดอาหาร อาหารฟาสต์ฟู้ด ไขมันชนิดนี้จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงกว่าไขมันอิ่มตัว (Saturated fats)

ดังนั้นถ้าคุณมีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลลสูง การแก้ไขไม่ใช่เพียงหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง แต่เป็นการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง และอาหาร Trans Fat ที่สำคัญอย่าลืมเพิ่มอาหารที่มี HDL สูงให้ตัวเองด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงโรคร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนใครที่แอบหวั่นว่าก็มันเยอะไปแล้วจะทำยังไง อย่าปล่อยให้ความนอยด์มารบกวนจิตใจ ลองมองหาประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคร้าย ในราคาแสนถูกเพียงวันละไม่กี่บาท เท่านี้ก็อุ่นใจว่ามีประกันคอยคุ้มครองดูแลอยู่แล้ว

 

ที่มา:http://www.cigna.co.th/