3 ตัวช่วยออกกำลังกาย สำหรับ สาวไซส์ XL

1.ว่ายน้ำ (Swimming)

เป็นกีฬาที่มีการกระแทกต่ำ และเหมาะสมกับสาวเจ้าเนื้อ หรือผู้ที่มีปัญหาข้อต่อ ที่ต้องการออกกำลังกายทุกส่วนในร่างกายไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หน้าท้อง สะโพก ซึ่งเมื่ออยู่ในน้ำการขยับร่างกายกระทบกับน้ำในแต่ละท่าจะเกิดแรงต้านที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ได้ได้ตั้งแต่ 90-550 kcal โดยปริมาณจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว เพศ วัย ระยะเวลา ความต่อเนื่อง และความหนักเบาของการทำ นอกจากนี้ การว่ายน้ำ ยังช่วยบริหารปอด บริหารหัวใจ ให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล อีกทั้งช่วยผ่อนคลายนอนหลับสบายอีกด้วย แต่สำหรับสาวๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็นแต่อยากจะฝึกแรงต้านในน้ำ ลองลงไปเดินในน้ำก็ได้นะ หรือใช้มือจับขอบสระเอาไว้ตีขาไปมา ประมาณ 5 – 10 นาที หรือเหนื่อยก็ให้พักเป็นช่วงๆ ก็ได้เช่นกัน ไม่ควรหักโหมมากนัก เพราะการขยับถือว่าเป็นการออกกำลังกายแบบเบาๆ แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยแล้วละคะ

 

2.ปั่นจักรยาน (Bicycling)

อีกหนึ่งประเภทที่มีการกระแทกต่ำไม่ส่งผลต่อข้อเท้า หัวเข่า และหลัง เหมาะกับสาวๆ ที่น้ำหนักตัวเยอะ และเป็นที่นิยมกันมาก เพียงปั่นวันละ 30 นาที ก็สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 100 – 200 Kcal ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว เพศ อายุ ระยะเวลาและ ระยะทาง ความแรงใน การปั่นจักรยาน ในแต่ละครั้ง การปั่นจักรยานมีประโยชน์ทำให้กล้ามเนื้อขา โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขาหน้าและหลัง กล้ามเนื้อน่อง และลำตัว ช่วยให้มีความแข็งแรงขึ้น และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีอีกด้วย ลองไปปั่นกันนะ

 

3.โยคะ (Yoga)

หลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี และได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ เพราะมันเป็นการฝึกสมาธิและฝึกเพื่อยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ ให้ระบบกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็น เส้นเอ็น กระดูกไม่งอ ไหล่ไม่เอียง ข้อต่อ ข้อพับ ทำงานได้ดีขึ้น เรียกว่าการปรับสมดุลให้กับร่างกายทำให้รู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในการฝึก 1 ชั่วโมงจะเผาผลาญไป 180 – 200 kcal ดังนั้นการฝึกโยคะจึงเป็นตัวเลือกในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และช่วยบำบัดโรคต่างๆ ได้  อาทิ อาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ความเครียด ฯลฯ ท่าโยคะแต่ละท่าก็จะช่วยปรับสมดุลให้อวัยวะเหล่านี้ยืดหยุ่นได้ดีลดอาการปวดลงได้ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ถ้ามีอาการเครียดก็จะช่วยให้ดีขึ้น แต่ในบางท่าก็ไม่เหมาะกับบางโรค เช่น คนที่เป็นความดันโลหิตสูงและต่ำไม่ควรทำท่าก้มศีรษะ หรือคนที่มีปัญหาที่คอที่ไม่สามารถแหงนและบิดคอมากๆ ได้ ซึ่งหากใครมีปัญหาสุขภาพแบบนี้ควรให้แพทย์แนะนำและยืนยันก่อนว่าสามารถฝึกได้หรือไม่ หากฝึกได้ก็ควรให้ครูผู้ฝึกดูแลอย่างใกล้ชิดและคอยระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ เริ่มแรกในการฝึกควรเริ่มด้วยท่าง่ายๆ ก่อนเพื่อฝึกในการยืดหยุ่นร่างกายก่อนจะดีที่สุด

ขอบคุณที่มาจาก : goodlife