เปลี่ยนวันทำงานหรือวันธรรมดาๆ ให้กลายเป็นวันแห่งการเผาผลาญไขมัน ด้วยเคล็ดลับที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจเหล่านี้...ซึ่งคุณนำไปใช้ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นค่ะ

06.00 – ตื่นรับแสงธรรมชาติยามเช้า แสงอาทิตย์ยามเช้าจะกระตุ้นร่างกายให้หลั่งฮอร์โมนควบคุมความอิ่ม ซึ่งช่วยทำให้แผนลดน้ำหนักเดินหน้าไปได้อย่างสวยงามตลอดทั้งวัน American Journal of Clinical Nutrition ชี้ว่าคนที่ได้รับวิตามินดีจากแสงแดดในระดับสูงๆ จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ชอบอยู่ในร่มถึง 2 เท่า

8.45 –เลือกที่นั่งช่วยได้ ถ้าต้องนั่งทำงานวันละ 8 ชั่วโมง คุณก็ควรจะลองนั่งบนลูกบอลออกกำลังกายแทนเก้าอี้หมุน ซึ่งจะทำให้คุณเผาผลาญได้อีก 6 แคลอรีโดยไม่ต้องขยับไปไหนเลย

9.00 – ดื่มน้ำเย็นจัด นี่คือช่วงเวลาที่ร่างกายคุณเผาผลาญแคลอรีได้ช้าที่สุด จึงต้องกระตุ้นด้วยการดื่มน้ำเย็นๆ สัก 2 แก้ว ซึ่งหลังจากที่ดื่ม ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้จะเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 30-40 นาที

11.30 – เคี้ยวหมากฝรั่ง ถ้าคิดจะลดพุง ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ถึงวันละ 350 แคลอรี 

12.15 – ดูแลต้นไม้ ถ้ามีงานกองพะเนินจนกลัวว่าจะเสร็จไม่ทันและไม่ได้เวิร์กเอาต์ตามที่ตั้งใจไว้ คุณก็ควรจะใช้เวลาดูแลต้นไม้ในออฟฟิศสัก 60 วินาที ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 12% แค่นี้ก็ไม่พลาดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแล้วล่ะ

12.50 – ทำมื้อเที่ยงมากิน คุณจะได้ควบคุมจำนวนแคลอรีได้เอง และควรใช้ภาชนะแก้วใส่อาหารมากินแทนภาชนะพลาสติกราคาถูก ที่มักมีส่วนผสมของพทาเลตที่จะทำให้คุณอ้วนได้

14.00 – ฟังเพลง เพราะการฟังเพลงที่ช่วยสร้างแรงจูงใจก่อนออกกำลังกายเพียง 10 นาที เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการออกกำลังกายได้ถึง 15%  และช่วยให้คุณจะเผาผลาญแคลอรีได้อีกเยอะ

15.00 – ดื่มกาแฟ คาเฟอีนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้นานถึง 3 ชั่วโมง และถ้าไม่อยากนอนไม่หลับ นี่คือเวลาที่คุณควรจะดื่มกาแฟให้สมองแจ่มใสสักถ้วย

16.30 – กินถั่วอัลมอนด์ 1 กำมือ เป็นอาหารว่างแทนพวกบิสกิต ถ้ากินอัลมอนด์ทุกวันเป็นเวลา 6 เดือน คุณจะลดน้ำหนักลงได้ถึง 18%

18.00 – จัดมื้อเย็นแบบเบาๆ ...ทานมื้อเช้าเป็นมื้อใหญ่ มื้อกลางวันในปริมาณพอเหมาะ และมื้อเย็นให้ทานอาหารเบาๆ เพราะร่างกายจะมีความไวในการตอบสนองต่ออินซูลินน้อยลงในตอนเย็น ในขณะที่อัตราการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลานี้ การรับประทานอาหารเย็นมื้อใหญ่จึงอาจทำให้คุณเป็นโรคอ้วนได้

ที่มา: http://womenshealththailand.com/