สิวเป็นปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยรุ่น ช่วงที่มีประจำเดือน และช่วงตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ และในคนที่อดนอนหรือนอนดึก เนื่องจากต่อมใต้สมองจะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมากระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานเพิ่มขึ้น สังเกตได้จากคนนอนดึกเมื่อตื่นเช้าจะพบว่าหน้ามันกว่าปกติ

และเมื่อเป็นสิวแล้วก็ไม่ควรปล่อยไว้เนิ่นนาน ควรจะรีบทำการรักษา เนื่องจากการรักษาสิวในขณะเริ่มเป็นจะรักษาได้ผลดีมากกว่า ส่วนระยะเวลาในการรักษาสิวขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว ซึ่งบางรายอาจใช้เวลาในการรักษา 1 สัปดาห์ก็หายเป็นปกติ แต่บางรายอาจต้องใช้เวลานานเป็นเดือนๆ แต่เราสามารถรักษาสิวให้หายเร็วขึ้นได้ด้วยการพอกหน้ารักษาสิวเช่นกัน ถือเป็นการรักษาด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ และจะมีสูตรพอกหน้ารักษาสิวสูตรไหนบ้าง ตามมาดูกันค่ะ

สูตรมะเขือเทศและน้ำมะนาว

นำมะเขือเทศปั่นละเอียด ประมาณ 1-2 ลูก ผสมกับน้ำมะนาวครึ่งซีก คนให้เข้ากัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ค่อยล้างหน้าให้สะอาด จะช่วยทำให้สิวยุบเร็วขึ้น ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียป้องกันการเกิดสิวใหม่ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยดำรอยแดงจากสิวจางลง เป็นสูตรหน้าใสที่สาวๆ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

สูตรไข่ขาว

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาสิวเสี้ยน สิวหัวดำ และสิวหัวขาว เนื่องจากไข่ขาวมีคุณสมบัติช่วยลอกสิวเหล่านี้ให้หลุดออก ทั้งยังช่วยทำความสะอาดผิว ดูดซับไขมัน และกระชับรูขุมขนบนใบหน้า ใช้สำลีชุบไข่ขาว นำมาทาบางๆ ให้ทั่วบนใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้จนไข่แห้ง และเมื่อรู้สึกหน้าตึงๆ จึงค่อยๆ ลอกออก ค่อยล้างหน้าให้สะอาด

สูตรดินสอพองและน้ำมะนาว

นำดินสอพองมาผสมกับน้ำมะนาว ให้พอข้นๆ เหนียวๆ แล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ปล่อยทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที ค่อยล้างออกให้สะอาด จะช่วยให้สิวอักเสบแห้งและยุบไว อีกทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยให้หน้าเนียนนุ่ม

สูตรมะเขือเทศและโยเกิร์ต

นำมะเขือเทศปั่นรวมกับโยเกิร์ตจนละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้สิวอักเสบยุบเร็ว และหากสาวๆ คนไหนกำลังมองหาสูตรหน้าใสด้วย สามารถใช้สูตรพอกหน้ารักษาสิวสูตรนี้ได้เลย เพราะสูตรนี้นอกจากจะช่วยรักษาสิว ยังช่วยทำให้หน้าใสแลดูมีน้ำมีนวล

และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่ขึ้น ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และความร้อนจากแดดยังทำให้เกิดเหงื่อหากผสมกับไขมันหรือฝุ่น อาจส่งผลทำให้รูขุมขนอุดตันอักเสบได้

ขอขอบคุณ

ภาพ :istock