ที่มา :  หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.thaihealth.or.th/

 

กรมอนามัย เผยข้อมูลเปรียบเทียบ'ปลาสวาย'กรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าปลาน้ำจืดชนิดอื่น นักโภชนาการชี้ เป็นทางเลือกคนไทยไม่ต้องกินของแพง

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายสง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการโภชนาการ ที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวถึงข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับ "ปลาสวาย" มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงมากกว่า ปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาแซลมอนว่า ข้อมูลตารางคุณค่าทางอาหารในปลาน้ำจืดของไทยนั้น เบื้องต้นในเรื่องกรดไขมันไม่อิ่มตัว อย่างโอเมก้า 3 พบว่า ปลาสวาย เป็นปลาที่มีไขมันชนิดนี้มากกว่าปลาอื่นๆ โดยมีทั้งในเนื้อปลาและ ในไข่ปลา โดยเฉพาะในไข่ปลาจะพบมากที่สุด อย่างไรก็ตาม แต่ไม่มีการเปรียบเทียบว่า ปลาสวายมี โอเมก้า 3 มากกว่าปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาแซลมอนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แต่ข้อควรระวังคือ สำหรับปลาสวายจะเห็นได้ว่าลักษณะของปลามีไขมันมาก แต่พบว่าส่วนใหญ่เป็น ไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ปัญหาคือ ไม่ใช่ว่าปลาทุกชนิดที่มีไขมันในตัวเองมากแล้วจะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว ทั้งหมด ดังนั้น การรับประทานก็ต้องระมัดระวัง สิ่งสำคัญ คือ เมื่อพบว่าปลาน้ำจืดของไทยมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่ต้องรับประทานปลาทะเล น้ำลึกนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากปลาของไทยย่อมมีราคาถูกกว่า

ด้าน พญ.นภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปกติแล้วการ รับประทานไม่ว่าเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม หรือแม้แต่ปลา ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องรับประทานอย่างนั้นเพียงอย่างเดียว เนื่องจากหลักการโภชนาการที่ดีคือ ต้องบริโภคให้หลากหลายและบริโภคให้ครบ 5 หมู่ตามคุณค่าทางอาหารที่ร่างกายควรได้รับ

ผู้สื่อข่าวถามว่านอกจากเรื่องโอเมก้าแล้ว ยังมีคำถามว่าหากกินปลาแซลมอนต้องเลือก สีสดหรือสีจาง จึงจะปลอดภัย พญ.นภาพรรณกล่าวว่า ควรเลือกสีที่ไม่สดหรือจางจนเกินไป เนื่องจากสีสดมากๆ จนน่ากลัว เบื้องต้นผู้บริโภคไม่มีทางทราบว่า เป็นเพราะผสมสีชนิดใด หรือเป็นสีผสมอาหาร ก็ไม่มีทางทราบ ขณะที่ หากเลือกสีจางๆ ก็ใช่ว่าจะดี เนื่องจากสีซีดมากๆ แสดงว่ามีไขมันสูง ทำให้ความเข้มจางลง การกินอะไรที่มีไขมัน สูงมากๆ ย่อมไม่ดีเช่นกัน

ทั้งนี้ สำหรับกรดไขมันโอเมก้า 3 จะมีดีเอชเอ ซึ่งช่วยในเรื่องจอประสาทตาและเซลล์สมอง ดังนั้น ดีเอชเอจึงมีความสำคัญมากต่อสตรีในระยะตั้งครรภ์และมารดาในระยะให้นมบุตร ที่ช่วยให้สมองทารกพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์