ที่มา : โลกวันนี้วันสุข

http://www.thaihealth.or.th/

โดย : ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์

 

การมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เราจึงเห็นว่าหลายคนหันมาทำทุกอย่างเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง บ้างก็ออกกำลังกาย กินอาหารเสริม ควบคุมอาหาร แต่ถึงอย่างไรวิธีที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นการออกกำลังกายนั่นเอง

          การเดินนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการออกกำลังกาย เพราะไม่ทำให้เหนื่อยมาก และยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย นอกจากนี้โอ กาสเสี่ยงต่ออาการปวดข้อก็ไม่ มากนัก เหมาะสำหรับคนอ้วนหรือ ผู้ที่เริ่มออกกำลังกาย ส่วนการ วิ่งเป็นการออกกำลังกายสำหรับ ผู้ที่เตรียมร่างกายไว้พร้อมแล้ว เพราะหัวใจจะเต้นเร็ว ทำให้เหนื่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่ม ความฟิตของร่างกายให้มากขึ้น

          การเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย จะต้องอุ่นให้ร่างกายให้พร้อม ขั้นตอนนี้สำคัญมาก อาจจะใช้วิธีเดินภาย ในบ้าน รอบบ้าน หรือเดินบนสายพาน ประมาณ 5-10 นาที จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆได้มากขึ้น หัวใจและหลอดเลือดมีการเตรียม ความพร้อมมากขึ้น เป็นการป้องกัน การบาดเจ็บจากการออกกำลังกายได้ดี

          เมื่อมีความพร้อมของร่างกายจากการออกกำลังกายจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว หากต้องการเพิ่มความฟิตร่างกายก็สามารถกระทำได้ โดยการเลือกประเภทกีฬาที่ชอบและสะดวกที่สุด แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธีออกกำลังกาย

          ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือ ไม่ควรหักโหมมากในครั้งแรกๆ แต่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำเป็นครั้งคราวแต่หักโหม ไม่ควรกลั้นหายใจหรือสูดลมหายใจอย่างแรง ควรหายใจเข้าและออกยาวๆเพื่อช่วยระบบการหายใจของ ร่างกาย และยังสามารถสังเกตอาการขณะออกกำลังกายว่าทำมากไปหรือไม่

          เมื่อออกกำลังกายแล้วอย่าหยุดในทันที เพราะหัวใจยังเต้นเร็วมาก จะปรับตัวให้เต้นช้าลงไม่ ทัน ให้วิ่งช้าๆหรือเดินต่อไปสักพัก จนกระทั่งชีพจรกลับคืนสู่สภาพใกล้เคียงปรกติ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอภายหลังออกกำลังกาย

          ประโยชน์ของการออกกำลัง กายมีมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี สามารถไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้มากขึ้น ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง มีภูมิต้าน ทานของร่างกายดีขึ้น และป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรค อ้วน  โรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุน ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก การทรงตัวดีขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้น ช่วยให้ระบบขับ ถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดความ เครียด ภาวะซึมเศร้า และช่วยให้นอนหลับสบาย

          หากต้องการให้ร่างกายแข็งแรงทุกสัดส่วนควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี ผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี และยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย