การเกิดเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องเก่ง ต้องแกร่ง ต้องดุดัน ฟันฝ่าและต่อสู้กับทุกเรื่องนั้นไม่ง่ายเลย ยิ่งเราสู้ชีวิตในโลกนี้ได้ดีเท่าไหร่ก็คล้ายกับว่าบุคลิกลักษณะนิสัยเราจะกลายเป็นสาวเปรี้ยวเข็ดฟัน หรือสาวห้าวดุดันปราศจากความหวานไปโดยไม่รู้ตัว แต่บางขณะเราก็อยากกลับมาเป็นสาวหวานละมุนใจกับเขาดูบ้าง และนี่คือ 5 ทริคที่จะแปลงนิสัยให้กลับมาหวานละมุนใจใครอยู่ใกล้ก็หลงรัก
 

 

คะ ขา เป็นนิสัย ไม่ว่ากับใครก็ตาม

การเป็นสาวหวานละมุนใจมันอาจไม่ได้ยากเกินไปอย่างที่เราเคยหวาดกลัว แต่มันเริ่มต้นง่าย ๆ อย่างการมีหางเสียงกับคนที่เราพูดด้วยเสมอ ย้ำนะคะว่า “เสมอ” จากปกติเราอาจจะมีหางเสียงแค่กับเวลาคุยกับคนที่โตกว่า หัวหน้า เจ้านาย ครูบาอาจารย์ แต่กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนร่วมห้อง หรือแม้แต่พนักงานบริการในชีวิต เราแทบไม่เคยพูดคะ ขา กับคนเหล่านี้เลย จริง ๆ คำลงท้ายที่มีหางเสียงพวกนี้ทำได้ง่ายมาก แรก ๆ อาจจะไม่ชิน แต่ถ้าฝึกจนเป็นนิสัย พูดกับใครก็หวานละมุน ไม่ว่าใครก็ตกหลุมรักทั้งนั้นแน่นอน

 

ขอบคุณ ขอโทษ ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ

คำพูดเป็นสิ่งที่ออกจากตัวเราได้ง่ายที่สุด แต่ก็ให้ผลทรงพลังต่อจิตใจคนอื่นมากที่สุดเหมือนกัน ดังนั้นนอกจากหางเสียงที่หวานละมุนใจแล้ว การขอบคุณและขอโทษให้ติดเป็นนิสัยก็จะทำให้เราดูอ่อนหวาน นอบน้อม น่ารักขึ้นได้ ไม่ว่าในสายตาของใคร การขอบคุณไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ แค่เอ่ยปากขอบคุณพี่กระเป๋ารถเมล์ที่ฉีกตัวให้ ขอบคุณคนข้างหน้าที่กดลิฟต์ให้เรา หรือขอบคุณเพื่อนที่จองที่ในห้องเรียนให้ ซิสอย่าคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่พวกเขา แต่ให้คิดว่ามันคือความใจดีที่เขามีให้และเราก็ควรขอบคุณ คำขอโทษก็เช่นกัน ไม่ต้องรอให้เป็นเรื่องใหญ่ หัดขอโทษก่อนเอาไว้ หวานละมุนใจใครก็หลง ชัวร์ !

 

แต่โอกาสพิเศษก็สำคัญ ดังนั้นใส่ใจวันพิเศษด้วย!

แม้เราจะบอกว่าพูดคะ ขา ขอบคุณ ขอโทษ ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ แต่กับโอกาสพิเศษ เราก็ไม่ควรลืม เพราะบางทีการเป็นสาวหวาน ก็หมายถึงสาวที่ใส่ใจคนอื่นมาก ๆ แคร์คนอื่นมาก ๆ คนอื่นถึงรู้สึกหวาน ๆ ขึ้นมาในใจเวลาอยู่ใกล้ ดังนั้นคนรอบตัวเรา เพื่อนในกลุ่ม เพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว จำวันเกิดเขาเอาไว้ (จดไว้ก็ได้) รวมถึงวันอื่น ๆ เช่น วันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่ วันขึ้นบ้านใหม่ของหัวหน้า หรือแม้แต่เทศกาลทั่วไปอย่างปีใหม่ เราก็ใช้โอกาสนี้อวยพร หรือพูดสิ่งดี ๆ ให้พวกเขา ถ้าพอมีเวลาก็ลองทำการ์ดเล็ก ๆ น่ารัก ๆ เพิ่มความหวานละมุนอุ่นหัวใจสุด ๆ ไปเลย

 

ยิ้มไว้ หวานไปถึงหัวใจ

สิ่งที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุดของการเป็นสาวหวานละมุนใจใครก็อยากอยู่ใกล้ คือลองยิ้มดูบ้าง แม้โลกทุกวันนี้จะรีบเร่ง จนเราไม่สามารถหยุดชื่นชมความงามของอะไรจนยิ้มออกมาได้ แต่บางทีรอยยิ้มของเรานี่แหละที่จะเป็นความงามให้คนอื่นยิ้มตาม! ไม่ได้บอกให้โปรยยิ้มเหมือนนางงาม แต่จังหวะไหนที่เราได้สบตาพนักงานในร้านสะดวกซื้อ ยามหน้าหมู่บ้าน หรือเพื่อนร่วมงานที่เดินสวนกันหน้าตึก เราลองยิ้มน้อย ๆ ให้เขา สบตา พยักหน้า แรก ๆ เราอาจยังไม่ชิน เขาเองก็ไม่ชิน แต่ถ้าเราทำจนเป็นนิสัย ความหวานละมุน และพลังบวกจากรอยยิ้มแห่งความหวังดีนี้ เชื่อว่าทุกคนสัมผัสได้!

 

ชื่นชมคนอื่นจากหัวใจ

ความหวานคือความชุ่มชื่นหัวใจ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าสาวหวานคือสาวประเภทที่ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกชุ่มชื่นละมุนใจก็ไม่ผิดนัก ในชีวิตเราอาจจะเรียน ทำงาน เดินทาง ใช้เวลาจนเราไม่ได้ชมความงามของสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือผู้คนรอบกายเลย และนั่นทำให้เราเองก็ขาดความชุ่มชื่น ความหวานในชีวิต เราจึงควรหันมองข้อดีของคนอื่นจากใจจริง อาจจะเป็นชุดที่สวยน่ารักจนเราอยากชม อาจจะเป็นงานของเพื่อนที่ทำออกมาดีจนเราอยากกอด สิ่งเรานี้ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว การเป็นสาวหวานละมุนใจคือการรู้จักชื่นชมคนอื่นจากหัวใจ เพื่อส่งต่อความสวยงามจากความรู้สึกของเราให้คนอื่นเป็นทอด ๆ ไป

การเป็นสาวหวานมันอาจไม่ได้ยากเกินไป แค่สิ่งง่าย ๆ ที่โลกร้าย ๆ ใบนี้พรากเอาไปจากเราสมัยยังเยาว์วัย แต่เราเชื่อว่าทุกความหวานในตัวผู้หญิงทุกคนสามารถฟื้นตื่นขึ้นมาได้ เริ่มต้นที่ทัศนคติ คำพูด เหล่านี้รับรองว่าหวานละมุนใจจนใครเข้าใกล้ก็ตกหลุมรักแน่นอน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก beautyhunter