วิธีเป่าผม 7 เคล็ดลับเป่าผมให้อยู่ทรงสวย ไม่แห้งเสีย และไม่แตกปลายง่าย ๆ จะมีทริคเด็ดเคล็ดลับในการเป่าผม หรือไดร์ผมอย่างไรบ้างนั้น มาดูกัน

          หากพูดถึงการจัดแต่งทรงผม แน่นอนว่าสาว ๆ ทุกคนต้องพึ่งไดร์เป่าผมเป็นอุปกรณ์หลักกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งนอกจากไดร์เป่าผมจะช่วยเป่าผมให้แห้งแล้ว ยังช่วยจัดทรงผมให้ตรงสลวย อยู่ทรงสวย มีสภาพดี ไม่ชี้ฟูอีกด้วย แต่บางครั้งการเป่าผมก็อาจทำให้สาว ๆ หงุดหงิดใจได้เหมือนกัน เพราะผมกลับชี้ฟู ไม่อยู่ทรง แถมดีไม่ดีผมยังแห้งเสีย แตกปลายอีก ซึ่งนั่นอาจเกิดจากการไดร์ผมผิดวิธีนั่นเอง

          แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพียงแค่รู้วิธีเป่าผมอย่างถูกต้อง วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอนำทริคเด็ดเคล็ดลับเป่าผมให้สวยอยู่ทรง ไม่แห้งเสีย มาฝากสาว ๆ ทุกคนแล้ว มาดูกันเลยค่ะ ว่าจะมีวิธีใดบ้าง

 

 

 

1. เช็ดผมให้หมาด ๆ

          หลังจากสระผมเสร็จใหม่ ๆ เส้นผมของเรายังมีความอ่อนแอและเปราะบางอยู่มาก ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรง ๆ แต่ให้ใช้ผ้าขนหนูซับผมเบา ๆ ให้พอหมาด แต่หากอยากให้ผมแห้งเร็ว แนะนำว่าให้นำผ้าขนหนูผืนแห้งอีกผืนมาคลุมผมอีกชั้น แล้วใช้ไดร์เป่าลงที่ผ้าขนหนู ซึ่งวิธีใช้ผ้าคลุมผมนี้ จะช่วยให้ผมไม่โดนความร้อนโดยตรงจากไดร์เป่าผม อีกทั้งผ้าขนหนูยังช่วยซับน้ำและกระจายความร้อนให้ทั่วศีรษะ จึงทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น แถมยังไม่ทำให้ผมแห้งเสียและไม่แตกปลายอีกด้วย

2. ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผมจากความร้อน

          ก่อนที่สาว ๆ จะไดร์ผม หรือใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ต้องใช้ความร้อน เช่น ที่หนีบผม หรือที่ม้วนผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน เช่น สเปรย์กันความร้อน ครีมหรือน้ำยาป้องกันความร้อน เพื่อช่วยเป็นเกราะป้องกันเส้นผมจากการถูกความร้อนเป็นประจำ ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย เปราะบางและขาดหลุดร่วงง่าย

 

3. เลือกแปรงหวีผมที่พอดี

          การเป่าผมให้ได้ผลดีนั้นไม่ใช่แค่การรู้เทคนิคเป่าผมเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม นั่นก็คือแปรงหวีผมนั่นเอง โดยควรเลือกแปรงแบบกลม ที่ทำมาจากขนหมู เพราะจะช่วยรักษาเกล็ดผมทำให้ผมเงางาม ไม่เสียง่าย อย่าใช้แปรงที่เป็นเหล็กเด็ดขาด เพราะจะสะสมความร้อน เวลาดึงผมจะทำให้เกล็ดผมเสียหายได้ โดยเลือกขนาดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 นิ้ว จะช่วยให้จัดทรงผมได้สวยงาม ดูมีวอลุ่ม และแนะนำว่าขณะใช้แปรงม้วนผม อย่าม้วนผมให้ใหญ่กว่าขนาดแปรง เพราะอาจทำให้ผมพันติดกับแปรงได้ค่ะ


4. ไดร์ผมหน้าม้าก่อน

          หากสาว ๆ คนไหนไว้ผมหน้าม้าอยู่ละก็ ให้เริ่มต้นไดร์ผมหน้าม้าก่อนเลยค่ะ เพราะผมหน้าม้าแห้งเร็ว หากปล่อยให้แห้งเองจะจัดทรงยาก แนะนำว่าให้ใช้หวีแปรงแบบกลมขนาดเล็ก เพราะจะช่วยยึดเส้นผมได้แน่น ทำให้ไดร์ผมง่าย โดยใช้หวีแปรงม้วนใต้ผมหน้าม้าแล้วหวีดึงออกมา พร้อมใช้ไดร์เป่าตรงด้านนอกของแปรง จะได้ผมหน้าม้าที่เรียบตรง วอลุ่มสวยกำลังดี และอาจฉีดสเปรย์ชนิด light holding บาง ๆ ทับลงอีกที จะช่วยให้หน้าม้าอยู่ทรงยิ่งขึ้นค่ะ

 

5. แบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ

          การจะเป่าผมให้ได้ทรงสวยควรแบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดทรง โดยเริ่มแบ่งจากสองส่วนซ้ายขวา แล้วค่อย ๆ แบ่งส่วนบนและล่าง โดยแบ่งผมด้วยกิ๊บติดผมแบบปากจระเข้ หรืออาจใช้กิ๊บแบบที่คล้ายกันก็ได้ ซึ่งการแบ่งผมนี้จะช่วยให้เป่าผมได้แห้งสนิททั่วทั้งศีรษะ ทั้งยังง่ายต่อการจัดทรงผมอีกด้วย

6. เป่าผมในแนวดิ่ง

          การเป่าผมที่ดีควรเป่าผมในแนวดิ่งจากด้านบนลงด้านล่าง ตั้งแต่โคนผมลงไปถึงปลายผม จะทำให้เส้นผมดูเรียบตรง เงางาม และดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการจ่อไดร์ทิ้งไว้ที่จุดใดจุดหนึ่ง ทั้งนี้ควรเว้นระยะระหว่างไดร์เป่าผมกับศีรษะให้พอดีประมาณ 15 เซนติเมตร ไม่ควรจ่อไดร์ใกล้ศีรษะเกินไป เพราะเส้นผมอาจเข้าไปพันกับมอเตอร์ไดร์เป่าผมได้ง่าย ทั้งยังเสี่ยงต่อการโดนความร้อนที่มากเกินไป อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและผมแห้งเสียได้

 

7. ใช้ลมเย็นเป่าผม

          หลังจากเป่าผมด้วยลมร้อนจนผมแห้งและได้ทรงสวยดีแล้ว ให้เปลี่ยนมาใช้ลมเย็นเป่าผมอีกครั้ง โดยให้กดปุ่ม cool ที่ไดร์เป่าผม เพื่อเป่าลมเย็น ๆ ประมาณ 10 วินาที พร้อมใช้มือขยี้โคนผมให้ทั่วศีรษะ เพื่อให้เส้นผมดูสลวยสวยเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเป็นการปิดเกล็ดผมชั้นนอก ซึ่งช่วยให้ผมดูเงางามยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

          เพียงแค่สาว ๆ นำเทคนิคเคล็ดลับในการเป่าผมทั้ง 7 ข้อที่เรามาฝากนี้ไปใช้ รับรองเลยว่าไดร์ผมครั้งต่อไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผมแห้งเสียชี้ฟูอีกแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญนอกจากผมจะอยู่ทรงสวยแล้ว ยังได้ผมสุขภาพดีอีกด้วยนะคะ ^_^