เสน่ห์ของทุกคนอยู่ที่รอยยิ้ม และจะยิ้มให้ติดตราตรึงใจเรื่องของ “ฟัน” จึงเป็นเรื่องสำคัญนะคะ อันที่จริงฟันเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักเหลือเกิน แต่มักจะถูกหมางเมินและได้รับการเอาใจใส่ก็ต่อเมื่อเราต้องรักษา พูดง่ายๆ คือ ถ้าไม่เกิดอาการปวดฟัน ฟันผุ ฟันกร่อน ฯลฯ ก็ไม่คิดจะเดินเข้าไปหาทันตแพทย์กันหรอก

 

 

เอาล่ะ... เมื่อฟันสำคัญต่อชีวิตเราขนาดนี้ ก็ควรหันมาใส่ใจกันสักนิด เรามาดูกันนะคะว่า ถ้าอยากมีฟันสวยขาวใส จะทำอย่างไรกันได้บ้าง

 

 

ทานอาหารบำรุงฟัน

 

อาหารบฟันส่วนใหญ่จะเป็นอาหารกลุ่มพืชผักผลไม้ ที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นต่อมน้ำลาย ต้านกรด และปกป้องเคลือบฟัน อาหารเหล่านี้ได้แก่ แอปเปิ้ล แครอท บร็อกโคลี่ ส้ม สับปะรด สตรอเบอร์รี เห็ดหอม งา และน้ำส้มสายชูแอบเปิ้ลไซเดอร์

 

 

แปรงฟันให้ถูกวิธี

 

เราแปรงฟันกันตั้งแต่จำความได้ แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่แปรงฟันด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น หากรักฟัน มาเรียนรู้การแปรงฟันใหม่ตอนนี้ก็ไม่สายนะคะ เพียงแค่เมื่อคุณเริ่มต้นแปรงฟัน ให้เริ่มแปรงในบริเวณฟันซี่ที่คิดว่า แปรงได้สะอาดน้อยที่สุดก่อน เพื่อที่จะเป็นการเน้นการทำความสะอาดที่บริเวณนี้ให้ดีที่สุดก่อน และระหว่างแปรงควรจับหัวแปรงเอียง 45 องศา แล้วค่อยๆ แปรงเป็นวงกลม เหมือนจับดินสอ คุณจะได้ไม่แปรงฟันแรงเกินไป การแปรงฟันด้านหนึ่งๆ ควรแปรงไม่น้อยกว่า 4-5 ครั้ง โดยใช้เวลาแปรงฟันทั้งหมดรวมประมาณ 2-3 นาที ทุกครั้งหลังแปรงฟันเสร็จต้องแปรงลิ้นด้วย และอย่าลืมเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือนนะคะ

 

 

เบกกิ้งโซดาช่วยได้

 

คนที่มีปัญหาฟันเหลืองหรือสีหมองไม่ขาวสดใส ให้ใช้เนื้อสตรอเบอรีคั้นผสมกับเบกกิ้งโซดา แล้วแปรงแทนยาสีฟัน แปรงเสร็จก็ทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วค่อยบ้วนน้ำออก ฟันก็จะค่อยๆ ขาวปรับสีขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่วิธีนี้ควรทำเดือนหนึ่งเพียง 1-2 ครั้ง เพราะหากทำบ่อยเกินไป อาจทำลายเคลือบฟันของคุณได้

 

 

หัดใช้ไหมขัดฟัน

 

หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับการใช้ไหมขัดฟัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การขัดฟันด้วยไหมขัดฟจะช่วยขจัดเศษอาหารและคราบจุลินทรย์ที่อยู่ในฟัน ซึ่งใช้สำหรับจุดที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง เช่น ซอกฟันหรือใต้ร่องเหงือก ซึ่งใช้เวลาในการทำความสะอาดไม่ถึง 5 นาที แต่ทำให้ฟันของคุณสะอาดยิ่งขึ้น ซึ่งควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

 

 

เลิกกลัวหมอฟันได้แล้ว

 

ไม่ต้องรอให้ปวดฟันจนนอนไม่หลับ แล้วค่อยคิดไปหาหมอฟันนะคะ แต่คุณควรมีวินัยในการไปพบแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการตรวจสุขภาพฟันและช่องปาก และสามารถรักษาอาการต่างๆ ได้ทันท่วงที ก่อนที่โรคในช่องปากจะถามหาค่ะ