โรคกรดไหลย้อน” ภัยใกล้ตัวที่พบมากขึ้น ในกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการกินแบบไม่เหมาะสม หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ รู้หรือไม่ว่าความเรื้อรังของโรค ภัยจากจุดเล็กๆ นี่แหละ อันตรายไม่ใช่เล่นๆ

 

 

เป็นเหมือนกันหรือเปล่า ห่วงทำแต่งานแล้วกินไม่เป็นเวลา ยิ่งทำงานในเมืองหลวง ต้องบริหารเวลาให้ดีๆ จากมื้อเช้าเลยไปเป็นมื้อเที่ยง ตกเย็นได้กินก็ 2-3 ทุ่มไปแล้ว ถ้าไม่เป็นโรคกระเพาะ ก็อาจเป็นโรคกรดไหลย้อน...กันได้

แต่ที่หลายคนมักมองข้าม และไม่ค่อยใส่ใจให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ คือ “โรคกรดไหลย้อน” ภัยใกล้ตัวที่พบมากขึ้น ในกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการกินแบบไม่เหมาะสม หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ รู้หรือไม่ว่าความเรื้อรังของโรค ภัยจากจุดเล็กๆ นี่แหละ อันตรายไม่ใช่เล่นๆ

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า สิ่งที่ผู้คนละเลยและเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิด “โรคกรดไหลย้อน” คือพฤติกรรมการกินไม่เหมาะสม เช่น ตื่นเช้าเร่งรีบไปทำงาน รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา กินแต่ชากาแฟ น้ำอัดลม ช็อกโกแลต สูบบุหรี่ รับประทานอาหารมื้อเย็นแล้วนอนทันที โดยไม่รอระยะเวลาให้อาหารเคลื่อนที่ผ่านกระเพาะอาหาร

“โรคกรดไหลย้อน” เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติ เกี่ยวกับการมีกรดในกระเพาะอาหารไหลขึ้นมาสู่หลอดอาหาร มีอาการคล้ายโรคกระเพาะ แต่มีสาเหตุต่างกัน โดยมาจากการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารหย่อนตัวลง ทำให้มีน้ำย่อยหรือกรดสามารถไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารได้

ปกติเมื่อกลืนอาหารลงไปแล้ว หูรูดจะทำหน้าที่คลายตัว เพื่อเปิดทางให้อาหารไหลผ่านลงไปในกระเพาะอาหาร เมื่อผ่านลงสู่กระเพาะอาหารแล้ว หูรูดจะหดรัดเพื่อปิดกั้นไม่ให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหาร คล้ายประตูที่ปิดกั้นไว้ ให้สังเกตุเลยว่า ประมาณ 3 ชม. หลังกินเสร็จ สัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่าโรคกรดไหลย้อนถามหา ได้แก่ อาเจียนบ่อยๆ น้ำหนักลด และอาเจียนเป็นเลือดหรือมีอาการซีด หากเป็นเช่นนี้...ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน จะกลายเป็นเรื้อรังและมีภาวะแทรกซ้อน อนาคตจะทำให้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งในหลอดอาหารส่วนปลายได้

อย่าลืมว่าความเคยชินจะเป็นจุดเริ่มต้นของโรค อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อพบว่า กลืนลำบาก กลืนเจ็บคอ ขณะกินข้าว

เมื่อพบว่าเป็นโรค วิธีรักษาสามารถตรวจวินิจฉัยได้ด้วย “เครื่องตรวจกรดไหลย้อน” แล้วค่อยผ่าตัดถ้ามีข้อบงชี้ว่า “กรดหรือด่างไหลย้อนขึ้นมาเกินระดับจริง” ด้วยการส่องกล้องเข้าไปเพื่อกระชับหูรูดให้แข็งแรง เป็นวิธีที่สะดวกปลอดภัย โดยพักฟื้น 1-2 วันก็สามารถกลับบ้านได้

จริงอยู่ว่า สมัยนี้มีวิธีรักษาที่ทันสมัย แต่อันดับแรกที่ควรทำคือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินในแต่ละวัน ให้เหมาะสม กินให้เป็นเวลาและครบทุกมื้อ มื้อละไม่ต้องมากแค่พออิ่ม เพื่อให้มีอาหารในกระเพาะ ร่างกายจะย่อยอาหารได้หมด และก่อนนอน 2-3 ชม. ควรงดอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงในการก่อโรคได้

ทุกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมควร “ลด ละ เลิก” ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นลดชา-กาแฟและของมัน น้ำอัดลม ส่วนใครที่เป็นสิงห์อมควัน ก็ควรงดสูบบุหรี่ เพราะนี่คือสาเหตุก่อโรคมะเร็ง สำคัญสุดๆ คืออย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สุขภาพร่างกายจะแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันสูงสามารถต้านทานต่อโรคได้ ถ้าเลือก ใส่ใจดูแลร่างกายให้มากยิ่งขึ้น

 

 

ที่มา :www.dailynews.co.th โดย ทวีลาภ บวกทอง

http://www.thaihealth.or.th/